โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปลุกความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับคืนมาอีกครั้งหลังกระตุ้นลูกทีมสู้ถวายหัวในเกมที่รูปเกมสู้ไม่ได้แต่อดทนเล่น จนพลิกนรกบุกเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้ถึงปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ 3-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ผลรวมสองนัดเสมอ 3-3 แต่ “ปีศาจแดง” เข้ารอบด้วยกฎอะเวย์โกล
นี่คือสถิติ และ เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจหลังเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา
- มาร์คัส แรชฟอร์ด รับหน้าที่ยิงจุดโทษลูกแรกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ และเป็นจุดโทษแรกในชีวิตค้าแข้งของเขา (ในเกมอย่างเป็นทางการ)
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมแรกในรอบน็อคเอาต์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ผ่านเข้ารอบ ทั้งที่แพ้สองประตู หรือมากกว่านั้นในการเล่นในบ้านตัวเองเกมแรก
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตูได้ 21 แมตช์ติดต่อกันในการเล่นเกมเยือนจากการแข่งขันทุกรายการ เท่ากับสถิติสโมสรในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 1956 – เดือนกันยายน 1957 ภายใต้การกุมบังเหียนของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้
- เป็นครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูได้มากกว่า 1 ลูกในการเล่นเกมเยือน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ นับตั้งแต่รอบรองชนะเลิศที่พบ ชาลเก้04 เมื่อฤดูกาล 2010-11
- ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่เคยเสีย 2 ประตูในช่วง 30 นาทีแรกการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 1997
- คีลิยัน เอ็มบัปเป แอสซิสต์มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
- เอ็มบัปเป้ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดรายที่ 4 ที่ลงสนามเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ครบ 25 แมตช์ ต่อจาก เชส ฟาเบรกาส, โบยาน และ โรเก้ ซานตา ครูซ ในวัย 20 ปี 76 วัน
- โรเมลู ลูกากู ยิงประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากเกมผ่านไปเพียง 1 นาที 51 วินาที ซึ่งเป็นประตูที่เร็วที่สุดของ”ปีศาจแดง”ในการเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ นับตั้งแต่ที่ เวย์น รูนี่ย์ ยิงประตูได้หลังจากเกมผ่านไปเพียง 63 วินาที แมตช์ปะทะ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อเดือนมีนาคม 2010
