Business

ไตรมาสแรกทีวีดิจิทัลอ่วม‘ขาดทุน-กำไรลด’

ภาพรวมการใช้งบสื่อโฆษณา ไตรมาสแรก ปี 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปีก่อน โดย นีลเส็น ประเทศไทย รายงานตัวเลขเม็ดเงินโฆษณา ไตรมาสแรก ปี 2561 อยู่ที่ 24,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากไตรมาส 4 ปี 2560 ที่มีมูลค่า 22,562 ล้านบาท  แต่ ลดลง 6.9% เทียบไตรมาสแรก ปี 2560 ที่มีมูลค่า  26,510 ล้านบาท

แม้งบโฆษณารายเดือนไตรมาสแรกปีนี้ เริ่มขยับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม แต่ถือว่า “ลดลง” ทุกเดือนเมื่อเทียบกับแต่ละเดือนในปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ของลูกจ้างยังชะลอตัวจากปีที่ผ่านมา และอัตราว่างงานยังอยู่ระดับสูง ส่งผลให้กำลังซื้อของแรงงานบางส่วนยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน

ส่งผลให้ภาพรวมสื่อโฆษณาไตรมาสแรกสื่อส่วนใหญ่อยู่ในภาวะลดลง  ขณะที่การใช้เม็ดเงินโฆษณาทีวี ยังเป็นสื่อโฆษณาหลักที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดประมาณ 66%  โดยไตรมาสแรกปี 2561 มีมูลค่า 16,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6%  จากไตรมาส4 ปี 2560 ที่มีมูลค่า  13,912 ล้านบาท  และลดลง 6.8%  เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก ปี 2560 ที่มีมูลค่า 17,554 ล้านบาท

ทีวีดิจิทัล

 ‘ช่อง3’ขาดทุน 126 ล้าน

บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,420 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 17.5% จากไตรมาส 4 ปี2560 ที่มีรายได้ 2,060 ล้านบาท  แต่ลดลง 18.9% จากไตรมาส 1 ปี 2560 ที่มีรายได้  2,983 ล้านบาท  ขาดทุนสุทธิ 126 ล้านบาท

โดยรายได้หลักของกลุ่มบีอีซี มาจากการขยายเวลาโฆษณาอยู่ที่  90% ของรายได้รวม และมาจากการขายเวลาโฆษณา “ช่อง 3” เป็นหลัก

แม้ไตรมาสแรกปีนี้ รายได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม จากกระแสละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งเริ่มออกอากาศนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา

บุพเพสันนิวาส

 “บีอีซี”ขาดทุน 2 ไตรมาสต่อเนื่อง

นับตั้งแต่ยุคทีวีดิจิทัล ที่เริ่มออกอากาศในปี 2557 ผลประกอบการลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาสื่อดั้งเดิมลดลง และการแข่งขันสูงในธุรกิจทีวีดิจิทัล ที่มีจำนวนช่องเพิ่มขึ้น

ขณะที่ บีอีซี มีต้นทุนเพิ่ม จากค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าของทีวีดิจิทัล 3 ช่อง  ขณะเดียวกันการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่จำนวนมาก เมื่อเทียบกับยุคทีวีอนาล็อก ทำให้ฐานผู้ชมช่อง 3 ลดลง

บีอีซี

โดยผลการดำเนินงานบีอีซี จากปี 2556 เคยทำกำไรนิวไฮ ที่ 5,500 ล้านบาท ปี 2557 ลดลงเหลือ 4,400 ล้านบาท ปี2558 กำไร  2,900 ล้านบาท ปี 2559 กำไร 1,200 ล้านบาท และ ปี 2560 กำไรสุทธิเหลือเพียง 61 ล้านบาท โดยไตรมาส 4 ปี 2560 บีอีซี เริ่มมีผลขาดทุนกว่า 335 ล้านบาท เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคทีวีดิจิทัล และขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาสแรกปีนี้ ที่ 126  ล้านบาท

“เวิร์คพอยท์-โมโน”กำไรลดลง

บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK รายการผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 165.60 ล้านบาท ลดลง 7.77 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4% จากช่วงเดียวกันของปี 2560 มีกำไรสุทธิ 173.38 ล้านบาท

เวิร์คพอยท์

บล.ฟิลลิป ประเมิน “เวิร์คพอยท์” ไตรมาส2 ปีนี้  มีแนวโน้มดีขึ้น หลังละคร “บุพเพสันนิวาส” จบเรตติ้งของเวิร์คพอยท์ ฟื้นตัวดีขึ้นอีกทั้งเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมฟื้นตัวเริ่มเห็นการเติบโตอีกครั้ง จึงคาดกำไรจะดีขึ้นเทียบไตรมาสต่อไตรมาส แต่หากเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนต้องประเมินอีกครั้ง  เพราะรายการหลักที่มีเรตติ้งดีปีก่อนมีเรตติ้งลดลง  อาจมีผลต่ออัตราการขายโฆษณาและการปรับขึ้นค่าโฆษณาที่ปีก่อนสามารถปรับเพิ่มขึ้นไตรมาสต่อไตรมาส

บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี2561 มีกำไรสุทธิ 19.47 ล้านบาท ลดลง 15.90% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.15 ล้านบาท

“อมรินทร์-แกรมมี่”ขาดทุน

บริษัทอมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) รายงานผลดำเนินการไตรมาสแรกปีนี้ มีรายได้ 513.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก ปี 2560 จำนวน 48.28 ล้านบาท หรือ 10.38% มาจากธุรกิจทีวีดิจิทัล ช่องอมรินทร์ทีวี มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจสื่อดิจิทัลเติบโต  แต่ไตรมาสแรกปีนี้ ยังขาดทุนสุทธิ 19.05 ล้านบาท ลดลง 79.71 ล้านบาท หรือ 80.71%

บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2561 โดยขาดทุนสุทธิ 37.87 ล้านบาท จากช่วงเดียวันของปีก่อนมีกำไร 3.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1,156.4%


Add Friend

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight