COLUMNISTS

ผิดแล้วได้ดี ! ต้องตร.ขาใหญ่เมืองนนท์

Avatar photo
125

วันก่อนพูดถึงพฤติกรรมตำรวจเมืองนนท์บางคนในบางพื้นที่  กระทำการที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ให้ “ลูกน้อง” ระดับ “นายสิบ” ถึง “นายร้อย” ตั้งด่านตรวจรีดไถบนถนนสัญจรผ่านไปผ่านมา ช่วงเวลาเที่ยง บ่าย และกลางคืน หากเป็นกลางคืนก็จะเริ่มให้ปฎิบัติการตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00-23.00 น.

จุดที่ตั้งด่านเรียกว่าแต่ละจุดจะห่างกันเพียงไม่กี่กิโลเมตรก็จะเจอด่าน เสมือนเป็นด่านตรวจจับวัดแอลกอฮอล์ ดูดีมากหากประชาชนที่ไม่รู้ผ่านไปผ่านมา เพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ  สำหรับพวกเมาแล้วขับถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ออกมาปฎิบัติอย่างนี้

แต่การตั้งด่านตรวจจับเมาแล้วขับ เพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ “กลายเป็นช่องทางทำมาหากินของตำรวจบางพื้นที่บางกลุ่มไปเสียอย่างนั้น ในพื้นที่นนทุบรีในบางสถานีตำรวจ” ที่สนับสนุนให้ลูกน้องกระทำการอย่างนั้น จนชาวบ้านทนเห็นความไม่ดีไม่งาม ถึงขั้นทำหนังสือร้องเรียน “ผู้กำกับของสถานีตำรวจแห่งนี้” มาแล้ว ผสมกับ “พฤติกรรมกร่างของตำรวจบางนาย”

ช่วงที่ผ่านมาชาวบ้านคงคิดว่าจะได้รับการแก้ไข กับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้ง ด่านกร่างเรียกรับเงินผู้ที่เมาแล้วขับ แลกกับการไม่ส่งดำเนินคดี หรือเรียกค่าปรับที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับเรียกรับแบบที่ชาวบ้านเรียกว่า “ส่วย” เสียมากกว่า

ที่สาหัสไปกว่านี้เมื่อ วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 กลับมี “ผู้กำกับสถานีตำรวจแห่งนี้” ออกคำสั่งมอบหมายหน้าที่ราชการ ให้นายตำรวจเจ้าปัญหาทำหน้าที่ยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน “รักษาราชการแทนรองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามเสียอย่างนั้นเป็นเวลาร่วม 4 เดือน”

เห็นคำสั่งที่ออกมาไม่แน่ใจว่าผู้กำกับสถานีตำรวจแห่งนี้ ไม่รู้เอาซะเลยว่าลูกน้องตัวเอง มีพฤติกรรมอย่างไร หรือแกล้งไม่รู้ หรือว่ารู้แล้วก็ไม่สนใจ

จากตำแหน่ง “สารวัตร” ยังสามารถขยับขึ้นไป “รักษาการรองผู้กำกับ” ได้ แสดงว่าคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ  ที่สำคัญถ้าเขาคนนั้นมีพฤติกรรมที่ดีก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่งตั้งให้อยู่ระดับใหญ่แค่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ทำให้เพื่อนตำรวจด้วยกันเสียหาย

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมา จนชาวบ้านต้องทำหนังสือร้องเรียน จึงไม่แน่ใจว่าตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับรู้เรื่องแบบนี้บ้างหรือไม่ หรือปล่อยให้เป็นไปตามการปกครองแต่ละสถานีตำรวจ  ถ้านายตำรวจคนไหนมีปัญหาแล้วยังได้ดิบได้ดี โดยที่ไม่สนใจเสียงเรียกร้องจากชาวบ้าน  อย่างนี้แล้วจะให้ชาวบ้านเขาไปพึ่งใครที่ไหน

ในฐานะชาวบ้านคนหนึ่งมีความเข้าใจว่าหากนายตำรวจคนไหน มีเรื่องร้องเรียนปกติแล้ว เขาต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เป็นไปตามที่มีการร้องเรียนหรือไม่ เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับนายตำรวจคนนั้น หรือไม่ก็เพื่อลบข้อกล่าวหา เพื่อความโปร่งใส แต่สภาพที่เป็นอยู่ กลับประเคนหน้าที่การงานให้สูงขึ้น ยิ่งคิดหนักว่าเป็น “มือวาง” ของสถานีตำรวจแห่งนี้หรือไม่

ที่น่าประหลาดใจ ว่ากันว่าตำรวจคนนี้หลังได้เลื่อนขึ้นไปรักษาการตำแหน่งสูง กลับส่งต่อข้อความผ่านไปหาใครต่อใครแสดงความยิ่งใหญ่ซะอย่างนั้น เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหนลองไปถามชาวบ้านแถวๆ เมืองนนท์ และตำรวจบางคนที่ได้รับหนังสือแต่งตั้งให้ รักษาการรองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม  ของนายตำรวจคนนี้ ส่วนจะเป็นพื้นที่สถานีตำรวจไหนในเมืองนนท์ก็ลองไปหากันดูเพราะมีอยู่ไม่มาก

ล่าสุดผู้ใหญ่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติควันออกหูหลังมีเรื่องการแต่งตั้งที่ไม่ถูกไม่ควรไปเข้าหู ทราบว่าเมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 ได้มีคำสั่งให้ปรับการแต่งตั้งรักษาการนายตำรวจเจ้าปัญหาไปแล้ว นี่ถือเป็นความโชคดีที่ยังสามารถระงับเรื่องนี้ได้ แต่ไม่แน่ใจว่าการที่ให้คำสั่งมีผลไปตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2561  แต่กลับมาให้เปลี่ยนคำสั่งใหม่วันที่ 12 พฤษภาคม 2561 อย่างนี้คำสั่งที่ออกไปก่อนหน้านี้ “ใคร” คือผู้ต้องรับผิดชอบ 

สุดสยองพฤติกรรม ตำรวจนนทบุรี(บางนาย)


Add Friend