อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ลงนามในข้อตกลงการค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่ยืดเยื้อมานาน ท่ามกลางความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของ 2 ฝ่าย จากการที่รัฐบาลออสเตรเลียมีแผนที่จะย้ายสถานทูตของตัวเองในอิสราเอล ไปไว้ที่นครเยรูซาเลม
นายอึงการ์ติอาสโต ลูกิตา รัฐมนตรีการค้าอินโดนีเซีย และนายไซมอน เบอร์มิงแฮม รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลีย ลงนามในข้อตกลงการค้าระหว่าง 2 ประเทศ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ หลังจากเปิดเจรจครั้งแรกเมื่อ 9 ปีที่แล้ว
ข้อตกลงข้างต้น รวมถึง การเปิดทางให้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว และแกะของออสเตรเลีย สามารถเข้าถึงประชากร 260 ล้านคนของอินโดนีเซียได้มากขึ้น ขณะที่มหาวิทยาลัย ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ และเหมืองแร่ของออสเตรเลีย ก็จะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ที่มีขนาดใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ง่ายขึ้นด้วย
สำหรับอินโดนีเซียนั้น การเข้าถึงตลาดออสเตรเลียได้มากขึ้น จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ และสิ่งทอ ทั้งยังช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าประเภทไม้ อิเล็กทรอนิกส์ และเวชภัณฑ์
แม้เมื่อปี 2560 มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศ จะอยู่ที่ 11,700 ล้านดอลลาร์ แต่อินโดนีเซียยังเป็นแค่คู่ค้ารายใหญ่อันดับ 13 ของออสเตรเลียเท่านั้น และความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ยังไม่เติบโตเต็มที่นัก
หลังการลงนาม รัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศ ต่างกล่าวถึงข้อตกลงนี้ว่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
นายเบอร์มิงแฮม ระบุว่า การทำข้อตกลงนี้ ถือเป็นการเปิดหน้าใหม่สำหรับความร่วมมือของ 2 ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ขณะที่นายลูกิตา กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ และเป็นช่วงเวลาอันสดใสสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซีย กับออสเตรเลีย
