เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลีย เร่งดับไฟป่าที่ปะทุขึ้นพร้อมกัน 25 จุด ทั่วรัฐวิคตอเรีย ในวันนี้ (3 มี.ค.) หลังเจอคลื่นความร้อนทำอุณหภูมิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่าร้อยปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วง 4 วันที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย เซาท์ออสเตรเลีย วิคตอเรีย และแทสมาเนีย ตกอยู่ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดในช่วงสุดสัปดาห์นี้
รัฐวิคตอเรีย ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนดังกล่าวหนักสุด ต้องระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 2,000 นาย เครื่องบินขนน้ำ และอาสาสมัครจำนวนมากช่วยกันดับไฟป่าที่ปะทุขึ้นมาตามจุดต่างๆ
ในปี 2552 รัฐวิคตอเรีย เคยเจอกับเหตุไฟไหม้ป่าครั้งเลวร้ายสุด ทำลายบ้านเรือนไปหลายพันหลัง มีผู้เสียชีวิต 173 คน และบาดเจ็บอีก 414 คน เป็นวันที่สื่อพากันเรียกขานว่า “แบล็ก แซทเทอร์เดย์”
จุดที่เกิดไฟป่าขนาดใหญ่สุดในครั้งล่าสุดนี้ อยู่ที่บันยิบ สเตท พาร์ค ที่ต้นเพลิงเกิดขึ้นหลังจากมีฟ้าผ่าลงมาหลายครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 มี.ค.) ซึ่งทางการได้มีคำสั่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ โดยไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ซึ่งนับถึงช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานบ้านถูกเพลิงเผาไหม้ 3 หลัง และมีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
กรมอุตุนิยมวิทยา ออสเตรเลีย ระบุว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นตลอด 3 วัน 3 คืนที่ผ่าน ทำให้อุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ทำสถิติเป็นช่วงต้นเดือนมีนาคมที่มีอุณหภูมิสูงสุดในรอบกว่าร้อยปี
อุณหภูมิในรัฐแทสมาเนีย ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้สุดของออสเตรเลีย พุ่งขึ้นถึง 39.1 องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ทำสถติร้อนสุดในรอบ 131 ปี
