Politics

พปชร. ผุดไอเดียเชื่อมคลองหนุนท่องเที่ยว 

“พปชร.”ผุดไอเดียเชื่อมคลองกทม.สู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่ สร้างรายได้ให้ท้องถิ่นและยังป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพชั้นใน

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ดร.สันติ กีระนันท์ นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ กรรมการบริหารพรรค ได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับนายธันวา ไกรฤกษ์ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสวนหลวงประเวศ บริเวณคลองพระโขนงเชื่อมคลองประเวศบุรีรัมย์ หลังจากได้เปิดตัวแคมเปญ “Bangkok OK” โดยเฉพาะนโยบาย “กรุงเทพน่าเที่ยว”

สุวิทย์ 2.1
นายสุวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ (2มี.ค.) แสดงให้เห็นว่าพรรคพูดจริง ทำจริง และทำเร็ว นอกจากจะมาพบประชาชนแล้ว ก็จะมาสำรวจพื้นที่ทำโครงการแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยเฉพาะในเขตสวนหลวงและเขตประเวศ มีคลองศักยภาพที่เชื่อมถึงกัน สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำได้ คือ คลองพระโขนงและคลองประเวศบุรีรมย์ และยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

“เมื่อเทียบกับตลาดน้ำบางน้ำผึ้งที่ไม่มีคลองใหญ่ แต่สามารถทำตลาดน้ำให้มีชื่อเสียงระดับประเทศได้ ดังนั้น ตลาดน้ำวัดมหาบุศย์ แม่นาคพระโขนง ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยอาศัยจุดแข็งที่วัดมหาบุศย์เป็นวัดดัง และมีผู้มาเยี่ยมเยือนมากมายอยู่แล้วในวันเสาร์-อาทิตย์ เราเพียงเติมสร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวที่มาได้สัมผัสถึงบรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึกแบบตลาดน้ำไทยๆเท่านั้น”นายสุวิทย์ กล่าว

นอกจากนี้ ต้องเชื่อมโยงกับตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งซึ่งน่าทำมากๆ คือ ตลาดน้ำวัดกระทุ่มเสือปลา ในเขตประเวศ ตั้งอยู่ติดริมน้ำคลองประเวศบุรีรมณ์ รวมถึงคลองนี้เป็นคลองพหุวัฒนธรรม มีทั้งวัด, มัสยิดและศาลเจ้าที่สวยและมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมากมาย โดยสองตลาดน้ำนี้สามารถนั่งเรือเชื่อมถึงกันได้ เป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเหมือนล่องคลองตลาดน้ำอัมพวา เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ตลาดน้ำทั้งสองแห่งควรให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการค้าขาย

สุวิทย์ 3

ทั้งนี้ ในเขตสวนหลวง และเขตประเวศมีชุมชนรวมกันกว่า 100 แห่ง ทุกชุมชนจะได้สิทธิ์ในการเปิดร้านค้า 1-2 ร้าน และสองฝั่งคลองสามารถพัฒนาเป็นห้องพัก LongStay ให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้อีกด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนมีพื้นที่ขายสินค้าโอทอปหรือสินค้าอื่นๆตามความถนัด รวมถึงพวกขนมหวานและอาหารไทยโบราณซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวซึ่งงบประมาณดำเนินการไม่มาก บางส่วนเป็นเรื่องการสร้างการมีส่วนร่วมจากเอกชนที่อยากมาค้าขาย  บางส่วนมาจากชุมชนเอง

นายสุวิทย์ กล่าวด้วยว่า หัวใจสำคัญของโครงการจากคลองสู่คลองกทม. เป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และส่งเสริมการท่องเที่ยวใน กทม. ซึ่งหากรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทเอกชนรายใหญ่ต่างๆอยากทำ CSR ก็สามารถเข้ามาสนับสนุนได้ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่ง อีกทั้ง ได้เห็นนักท่องเที่ยว นั่งเรือทัวร์ชมคลองนี้แล้วนึกเสียดายที่คนไทยเองกับไม่ได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมสองฝั่งคลองเลย

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตพรรคมองไปถึงแนวทางการพัฒนาริมฝั่งคลองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ตรงวัดมหาบุศย์ ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ยาวไปจนถึงฉะเชิงเทรา ทุกสายน้ำเชื่อมโยงกันได้ หากเปิดประตูระบายน้ำบ้าง จะสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกหลายจุด และรองรับการจัดการน้ำเมิ่อน้ำมาก น้าล้น ป้องกันน้ำท่วมให้กับกทม. ชั้นในได้อีกด้วย

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight