เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญยื่นหนังสือนัด “ไทยรักษาชาติ” ฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรค 7 มี.ค.นี้ ด้าน “ทนาย” พร้อมน้อมรับผล
เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ยื่นหนังสือต่อหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โดยมีน.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้รับเรื่อง หนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 มีนาคมนี้ เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้องพิจารณาคดีชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ จึงแจ้งมาเพื่อทราบ และเพื่อเข้ารับฟังการอ่านวินิจฉัยตามวัน – เวลาและสถานที่ดังกล่าว หากคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายแล้วแต่กรณีทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาลรัฐธรรมนูญจะบันทึกไว้แล้วให้ถือว่าคำวินิจฉัยนั้นได้อ่านโดยชอบตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตราา 76 วรรค 2
ด้านนายสุรชัย ชินชัย ทนายความในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเพียงพอต่อการวินิจฉัยคดีได้เลย จึงถือว่าสิ้นสุดแล้ว เพราะพยานเอกสารชัดเจนแล้ว เมื่อศาลใช้ดุลพินิจตามมาตรา 58 รับฟังข้อเท็จจริงและกฎหมายเพียงพอแล้ว สามารถวินิจฉัยได้เลย คดีถือว่าไม่นำพยานบุคคลใด ๆ เข้าไต่สวนอีกแล้ว
“โดยวิธีพิจารณา เมื่อศาลนัดวินิจฉัยแล้ว แม้จะยื่นเอกสารหรือพยานเพิ่มเติมก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ แม้ตามกฎหมายจะให้ยื่นได้อย่างน้อย 3 วันก่อนวันวินิจฉัย แต่เชื่อว่า ไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องได้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 มีนาคม คาดว่าจะมีคำตัดสิน 2 แนวทาง คือ ยกคำร้องหรือยุบพรรคก็เป็นได้ และเมื่อมีคำวินิจฉัยแล้วถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถยื่นคำร้องหรืออุทธรณ์ใด ๆ ได้อีก ซึ่งพรรคเคารพคำวินิจฉัยของศาล” นายสุรชัย กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลหรือไม่ที่ศาลนัดฟังคำวินิจฉัยโดยไม่ไต่สวนพยาน นายสุรชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคไทยรักษาชาติไม่มีเจตนากระทำเป็นทางลบต่อประเพณีการปกครอง และได้ชี้แจงข้อกล่าวหากรณีที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองไปแล้ว และข้อกฎหมายที่โต้แย้งคือประเด็นที่กกต.มีมติข้ามขั้นตอนกฎหมาย คิดว่าการชี้แจงครบถ้วนแล้ว ส่วนจะหักล้างข้อกล่าวหาของกกต.ได้หรือไม่ เมื่อชี้แจงไปหมดแล้ว ศาลจะวินิจฉัยอย่างไรพรรคยอมรับ
