“บอร์ดทีวี ไดเร็ค” ลงมติยกเลิกดีลซื้อ “ช่องสปริงนิวส์” เหตุเงื่อนไขใหม่ไม่ลงตัว พร้อมเตรียมนำเงินที่ประหยัดได้ไปลงทุนทีวีดาวเทียมแทน
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการผ่าน Omni Channel เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทีวี ไดเร็ค มีมติให้ยุติการเข้าซื้อหุ้นบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลช่อง 19 (ช่องสปริงนิวส์) ในเครือบริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ด้วยวิธีผ่อนจ่ายเป็นเวลา 10 ปี 4 เดือน วงเงินรวม 1,078 ล้านบาท
เนื่องจากภายหลังที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ส่งผลให้เกิดการเจรจาระหว่างกันภายใต้เงื่อนไขใหม่ ซึ่งยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม ทีวี ไดเร็ค และช่องสปริงนิวส์ ยังคงเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน หลังจากนี้ก็ต้องหารือกันว่า ความร่วมมือครั้งใหม่จะมีทิศทางอย่างไร
ทั้งนี้ ปัจจุบันทีวีไดเร็คยังเหลือสัญญาร่วมผลิตเนื้อหากับช่องสปริงนิวส์ ในสัดส่วน 18 ชั่วโมงต่อวัน เป็นระยะเวลา 5 เดือน ในระหว่างนี้ ทีวี ไดเร็คจึงจะร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ เช่น JKN นำสารคดีและรายการต่างๆ มาช่วยดึงเรทติ้งของช่องสปริงนิวส์ให้เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ทีวี ไดเร็ค ก็วางแผนจะนำเงินที่ประหยัดได้ไปซื้อช่วงเวลาหรือพิจารณาการลงทุนในช่องทีวีดาวเทียม ซึ่งยังมีผู้ชมจำนวนมาก
นายวิเชียร มานะพงศ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากบอร์ดมีมติดังกล่าว ทีวี ไดเร็คก็จะส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาร่วมลงทุนผลิตเนื้อหาในสัดส่วน 18 ชั่วโมงต่อวัน ไปให้ช่องสปริงนิวส์
โดยตามเงื่อนไข ทีวี ไดเร็ค จะต้องบอกเลิกสัญญาล่วงหน้าเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะส่งผลให้สัญญาการร่วมผลิตเนื้อหาสิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนเมษายน 2565
นายวิเชียร กล่าวว่า หลังจากนี้ทีวี ไดเร็คและช่องสปริงนิวส์ จะต้องหารือโมเดลธุรกิจใหม่กันต่อไป ว่าจะเช่าเวลา ซื้อช่อง หรือร่วมทุน โดยจะต้องพิจารณาปัจจัยเรื่องวงเงินอุดหนุนจาก กสทช. ด้วย
อย่างไรก็ตาม การยุติการลงทุนในสปริงนิวส์ครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากรายได้ของทีวี ไดเร็คผ่านช่องสปริงนิวส์มีสัดส่วน 8% ของเป้าหมายรายได้ทั้งหมด 4,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 25 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งทีวี ไดเร็คก็จะผลักดันรายได้จากช่องทางอื่นๆ มาทดแทน
ขณะเดียวกันก็จะนำวงเงินที่ประหยัดได้จากการยกเลิกดีลของช่องสปริงนิวส์ จำนวน 8.71 ล้านบาทต่อเดือน ไปพิจารณาลงทุนในช่องทางอื่นๆ แทน เช่น การเช่าเวลา ร่วมทุนผลิต หรือซื้อช่องดาวเทียมแทน
