Finance

กระเป๋าตุง!! เปิด 10 หุ้นใหญ่จ่ายปันผลทะลุแสนล้าน

จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า หุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ขนาดใหญ่ 20 อันดับแรก ปัจจุบันมีการประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งล่าสุดแล้วกว่า 10 บริษัท โดยคิดเป็นมูลค่าเงินรวม 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลในรอบครึ่งปีหลัง แต่มีบางบริษัทที่จ่ายครั้งเดียวหรือคิดเป็นเงินปันผลในรอบปี 2561

สำหรับบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ที่มีการจ่ายเงินปันผลประกอบ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ (PTT) จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 1.20 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงินปันผล วันที่ 7 มีนาคม 2562 และจ่ายปันผลวันที่ 3 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสะสม ทั้งนี้จะพบว่ามูลค่าเงินปันผลที่ PTT ต้องจ่ายในครั้งนี้อยู่ที่ประมาร 3.42 หมื่นล้านบาท

หุ้นขนาดใหญ่ปันผลรอบล่าสุด 01

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด 1.05 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมูลค่าเงินปันผลรวมอยู่ที่ 1.49 หมื่นล้านบาท บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.2 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 และวันที่จ่ายคือ 22 พฤษภาคม 2562 โดยมูลค่าเงินปันผลรวมอยู่ที่ 1.07 หมื่นล้านบาท

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) จ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 9.50 บาท ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล 27 กุมภาพันธ์ 2562 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 เมษายน 2562 โดยมูลค่าเงินปันผลรวม 1.14 หมื่นล้านบาท บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 3.30 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 และวันที่จ่ายเงินปันผลคือวันที่ 18 เมษายน 2562 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวม 9.81 พันล้านบาท

บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 3.25 บาทกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 เมษายน 2562  โดยมีมูลค่าเงินปันผลที่จ่ายรวม 1.2 หมื่นล้านบาท  ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB จ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 4 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 7 มีนาคม 2562 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวม 1.35 หมื่นล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 4.5 บาท กำหนดรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิเงินปันผลวันที่ 24 เมษายน 2562และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวม 8.58 พันล้านบาท บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 2.5 บาท กำหนดผู้ได้รับสิทธิเงินปันผลในวันที่ 6 มีนาคม 2562 และจ่ายปันผลวันที่ 24 เมษายน 2562 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวม 1.12 หมื่นล้านบาท และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.3 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 และวันจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวม 2.58 พันล้านบาท

หุ้นขนาดใหญ่ปันผลรอบล่าสุด2 01

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า มีบริษัท 4 แห่ง ที่มีกำไรงวดปี2561ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2560 แต่ก็ยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ตามปกติประกอบด้วย บริษัท ปตท. มีกำไรในงวดปี 2561 ลดลง 11.46% ล่าสุดมีกำไรอยู่ที่  119,683.94 ล้านบาท, บริษัทปูนซิเมนต์ไทย มีกำไรลดลงหากเทียบงวดเดียวกันปีก่อน 18.7% และมีกำไรสุทธิเพียง 44,748.34 ล้านบาท, บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร มีกำไรลดลง 1.31% จากปีก่อน ล่าสุดมีกำไรสุทธิอยู่ที่  29,682.18 ล้านบาท  และธนาคารไทยพาณิชย์ มีกำไรลดลง  7.15% จากปีก่อน ล่าสุดมีกำไรสุทธิ 40,067.56 ล้านบาท

นักวิเคราะห์บล.เอเซียพลัส แนะนำว่าหุ้น PTT เป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยเพิ่มคำแนะนำการลงทุน เนื่องจากประเมินราคาน้ำมันยังเป็นตัวขับเคลื่อนกำไรของ PTT ในภาพใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว อีกทั้งเชื่อราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาผ่านการปรับฐานไปแล้วในระดับหนึ่งจนเริ่มมีโอกาสปรับตัวขึ้น (upside) และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (DivYield) ครึ่งปีสูงถึง 2.5%

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มีความเห็นว่า หุ้น SCC ยังน่าลงทุน เนื่องจาก ธุรกิจโภคภัณฑ์ทั้งปิโตรเคมีและบรรจุภัณฑ์มีโอกาสกระเตื้องขึ้นหลังเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ก่อนหน้าเทศกาลลูกค้ามักจะชะลอการสั่งซื้อทำให้ราคาจะอ่อนตัวลง แต่เมื่อหมดเทศกาลแล้วมีโอกาสที่อุปสงค์จากประเทศจีนจะฟื้นตัวและทำให้ราคา และ สเปรดของธุรกิจดีขึ้น

ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างไปได้ดีต่อในครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐมีการบริโภคเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 โดยในไตรมาส 4 ปี 2561 ยอดขายซีเมนต์โดยรวม เพิ่มขึ้น 6%จากงวดเดียวกันปีก่อนหลักๆ มาจากการเติบโตของยอดขายภาครัฐ ส่วนวัสดุก่อสร้างอื่นเพิ่มชึ้นเช่นกัน (ยอดขายวัสดุก่อสร้างในครัวเรือน 4%และยอดขายกระเบื้องเซรามิก 1%)

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปี 2562 คาดว่าจะทรงตัวจากงวดเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มยังคงเติบโตได้ดี แต่ก็ถูกชดเชยจากบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้แม้ว่าการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2562 จะจำกัดแต่มีผลกระทบระยะสั้นจากดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ในจีนที่มีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้น แรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่คลี่คลายลงในช่วงนี้ และมูลค่าพื้นฐานจูงใจ โดยคาดการณ์ Dividend Yield ที่ 3.8% ต่อปี (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight