สาธารณสุข รณรงค์ประชาชน “เลิกบุหรี่” ต่อเนื่อง หลังพบนักสูบกลุ่มอายุ 19-24 ปีเพิ่มขึ้น เดินหน้าไม่หยุด โครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” ล่าสุดมีผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ “ลด ละ เลิกบุหรี่” แล้ว 2 ล้านคน คิดเป็น 76.19 % โดยให้ อสม. 1 คน ชวนประชาชนในพื้นที่ “เลิกบุหรี่” ให้ได้อย่างถาวร อย่างน้อย 3 คน
ข้อมูล จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2558 พบว่าสถานการณ์การบริโภคบุหรี่ในประชากรไทย ในช่วงปี 2558 มีจำนวนผู้สูบบุหรี่อายุ 15 ปี ขึ้นไป จำนวน 10.7 ล้านคน หรือ 19.1 % ของประชากร เยาวชนอายุ 15-18 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่ลดลงเล็กน้อย จาก 7.9 % ในปี 2558 เป็น 7.8 % ในปี 2560 และอัตราการสูบบุหรี่มีแนวโน้มลดลงในทุกกลุ่ม ยกเว้น กลุ่มอายุ 19-24 ปี ที่เพิ่มขึ้นจาก 20.2 % ในปี 2558 เป็น 20.4 % ในปี 2560 โดยเพศชาย มีอัตราการสูบบุหรี่มากกว่าเพศหญิง
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปี 2559 กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” เป้าหมายให้คนไทยเลิกบุหรี่ได้ 3 ล้านคน หรือ มากกว่า ในระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่มิถุนายน 2559 สิ้นสุดในเดือน พฤษภาคม 2562 โดยให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นผู้ขับเคลื่อน
โดย อสม.1 คน ชวนประชาชนในพื้นที่อย่างน้อย 3 คน ลด ละ เลิกบุหรี่ ตามวิถีชุมชน และสามารถเลิกบุหรี่ได้ต่อเนื่องมากกว่า 6 เดือน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคต่างๆ และเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเด็ก เยาวชน และคนในชุมชน ซึ่งผลของการดำเนินงานตามโครงการฯ ในปี 2562 มีประชาชนสมัครใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 1,150,073 คน
สำหรับความคืบหน้าจนถึงขณะนี้ มีประชาชนสมัครใจเข้าร่วมโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ลด ละ เลิกบุหรี่ รวมทั้งสิ้น 2,285,808 คน คิดเป็น 76.19 % และมีผู้เลิกบุหรี่ได้ 6 เดือนขึ้นไป จำนวน 96,941 คน
ทั้งนี้แม้ยังไม่ได้ครบตามจำนวน แต่ยังคงมีการดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อทะลุเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ เพื่อให้โครงการฯนี้ประสบความสำเร็จ ได้มีการสำรวจ และเชิญชวน อสม. ให้เลิกบุหรี่ทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยหลังจากมีการสำรวจ อสม.ทั่วประเทศ จำนวน 1,039,729 คน พบว่ามี อสม.ที่สูบบุหรี่ จำนวน 27,467 คน ซึ่งมี อสม.ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 21,045 คน
“ โครงการฯ นี้ นอกจากต้องการให้ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่แล้ว ยังพบว่า การสูบบุหรี่ ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ เช่น แผลในกระเพาะอาหาร โรคหลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด โรคหัว และหลอดเลือด โรคมะเร็งปอด เป็นต้น ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.quitforking.com หรือผู้ที่อยากเลิกบุหรี่ติดต่อได้ที่ 1600 Quit Line สายด่วน เลิกบุหรี่ ” นพ.สุขุม กล่าว