ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ระบุ จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในเร็วๆ นี้ ตั้งเป้าบรรลุข้อตกลงการค้าขั้นสุดท้าย
ทร้ัมป์ กล่าวหลังพบกับรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ ของจีนที่ห้องทำงานรูปไข่ ในทำเนียบขาวว่า ที่สุดแล้ว การตัดสินใจใหญ่สุด หรือแม้กระทั่งที่มีขนาดรองๆ ลงมา จะกระทำโดยประธานาธิบดีสี และตัวเขาเอง
เขาบอกว่า เขา “อาจจะ” พบกับผู้นำจีน ในเดือนมีนาคม ที่มาร์ อา ลาโก สินทรัพย์ส่วนตัวของเขาในรัฐฟลอริดา และมีแนวโน้มอย่างมากว่าจะเกิดข้อตกลงขึ้น
ขณะที่นายหลิวบอกว่า มีแนวโน้มอย่างมากที่จะเกิดข้อตกลงขึ้นมา และว่า ฝั่งจีนพร้อมที่จะดำเนินความพยายามอย่างถึงที่สุด
การหารือที่ทำเนียบขาว เกิดขึ้นหลังการเจรจาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ 2 ประเทศ ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ขยายเวลาหารือจากกำหนดเดิม 2 วัน มาเป็นตลอดทั้งสุดสัปดาห์นี้
ในการเจรจาดังกล่าว ที่นายหลิว เป็นผู้นำในฝ่ายจีน และนายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นผู้นำคณะเจรจาฝ่ายอเมริกันนั้น จีนได้ให้คำมั่นถึงการเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าสหรัฐมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งยังเห็นพ้องที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินหยวน สกุลเงินท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี ระหว่างการพบปะที่ทำเนียบขาวนั้น ทรัมป์แสดงท่าทีไม่เห็นพ้องกับนายไลท์ไทเซอร์ เกี่ยวกับการทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ของทั้ง 2 ฝ่าย
“ผมไม่ชอบเอ็มโอยู เพราะมันไม่มีความหมายอะไรเลย ไม่ทั้งเรื่องที่ว่าจะบรรลุข้อตกลง หรือไม่บรรลุ” ทรัมป์ ระบุ
ในตอนแรกนั้น นายไลท์ไทเซอร์ อธิบายว่าข้อตกลงดังกล่าว จะเป็นสัญญาผูกมัดระหว่างกัน แต่เมื่อเห็นว่าผู้นำสหรัฐยังยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง เขาจึงหันไปบอกกับคณะเจรจาของตัวเองว่า จะไม่ใช้เงื่อนไขดังกล่าวอีกต่อไป
“จากนี้ไป เราจะไม่ใช้คำว่าบันทึกความเข้าใจอีก เราจะใช้คำว่าข้อตกลงการค้าเท่านั้น ตกลงไหม” นายไลท์ไทเซอร์ ระบุ
“ดี ผมชอบแบบนั้นมากกว่า” ทรัมป์กล่าว
ผู้นำสหรัฐ บอกด้ัวยว่า เรื่องเกี่ยวกับ 2 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน คือ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และแซดทีอี ยังไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือแต่อย่างใด แต่อาจจะมีการพูดถึงในการเจรจาช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
