ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระบุ รัสเซียพร้อมปฏิบัติการทางทหารแบบวิกฤติขีปนาวุธคิวบาขึ้นอีกครั้ง หากสหรัฐต้องการ พร้อมขู่ติดตั้งขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์ไฮเปอร์โซนิคบนเรือ หรือเรือดำน้ำ ที่อยู่ใกล้กับน่านน้ำแดนอินทรี
วิกฤติขีปนาวุธคิวบา เกิดขึ้นเมื่อปี 2505 เมื่อรัฐบาลมอสโกตอบโต้สหรัฐ ที่นำขีปนาวุธไปติดตั้งไว้ในตุรกี ด้วยการส่งขีปนาวุธนำวิถีไปยังคิวบา จุดชนวนให้เกิดการเผชิญหน้าที่ทำให้โลกเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมา
ความตึงเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้งในขณะนี้ จากการที่รัสเซียกังวลว่า สหรัฐอาจติดตั้งขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลางในยุโรป หลังจากถอนตัวออกจากสนธิสัญญาควบคุมอาวุธที่ทำขึ้นในสมัยสงครามเย็น
การแสดงความเห็นดังกล่าวของปูติน เกิดขึ้นหลังจากที่เขาออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียจะดำเนินการแบบเดียวกับสหรัฐ ที่นำขีปนาวุธมาติดตั้งใหม่ใกล้กับรัสเซีย ด้วยการนำขีปนาวุธของตัวเองไปติดตั้งใกล้กับดินแดนสหรัฐ หรือใช้ขีปนาวุธที่มีความเร็วสูง หรือทั้งคู่
ปูตินให้รายละเอียดถึงคำขู่ของเขาเป็นครั้งแรก โดยบอกว่า รัสเซียอาจติดตั้งขีปนาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงบนเรือรบ หรือเรือดำน้ำ ที่อาจแฝงตัวอยู่นอกน่านน้ำสหรัฐ ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐเดินหน้าติดตั้งขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลางในยุโรป
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บอกปัดไม่ให้ความสำคัญต่อคำเตือนก่อนหน้านี้ของผู้นำรัสเซีย โดยบอกว่าเป็นแค่การโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจต่อเรื่องที่ทางการสหรัฐกล่าวหาว่า รัสเซียละเมิดสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (ไอเอ็นเอฟ)
ขณะที่นายคิงสตัน รีฟ จากสมาคมควบคุมอาวุธ ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมอง แสดงความเห็นว่า ปูตินอาจต้องการส่งสัญญาณว่า รัสเซียติดตามการเคลื่อนไหวของสหรัฐอย่างใกล้ชิด
“เขาอาจจะพยายามส่งข้อความว่า ไม่มีฝ่าายใดที่ต้องการโลกที่แข่งกันสะสมอาวุธแล้ว ดังนั้นเราควรมานั่งลงแล้วเปิดเจรจากันใหม่”
ปูตินเคยกล่าวด้วยว่า เขาไม่ต้องการที่จะสะสมอาวุธ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องทำ ถ้าหากสหรัฐติดตั้งขีปนาวุธในยุโรป ที่บางลูกอาจมาถึงกรุงมอสโกได้ในเวลาเพียงแค่ 10-12 นาที
