Politics

พปชร.ลุยชัยนาท ชู 3 ลด 3 เพิ่มช่วยเกษตรกร

แกนนำพปชร. ลุยชัยนาท ชู 3 ลด 3 เพิ่ม ช่วยเกษตรกร ย้ำเกี่ยวข้าวปุ๊บรวยปั๊บรับ 7 หมื่นต่อครัวเรือน “สมศักดิ์” โวนโยบาย  พปชร. ถูกใจประชาชน มั่นใจต่อยอดนโยบาย พลเอกประยุทธ์ ด้าน ‘อนุชา’ เชื่อกวาดเสียงชัยนาท ยกจังหวัด ปัด อบจ. สนับสนุนพรรค 

ปราศรัยใหญ่ชัยนาท ๑๙๐๒๒๑ 0026 0

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยนโยบายข้าว “ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม” นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาทเขต 1 นายมณเฑียร สงค์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต 2 โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวนาร่วมรับฟังและเสนอปัญหาหลายร้อยคน

นายอุตตม กล่าวในเวทีปราศรัยว่า พรรคอาสาตัวมาช่วยเกษตรกร วันนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งสำคัญ ที่จะชี้ชะตาประเทศไทย เป็นการเลือกตั้งที่เราจะต้องเลือกอนาคต ที่ผ่านมาผ่านอะไรหลายๆอย่าง วันนี้บ้านเมืองสงบสุข แต่ปัญหาคือเรื่องปากท้อง มาวันนี้เป็นเรื่องเกษตรโดยเฉพาะ เรื่องข่าว

เพราะถือว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยมาตลอด หากจะให้คนไทยอยู่ดีกินดี ต้องแก้ปัญหาด้านการเกษตร ไม่ใช่แก้เฉพาะหน้า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ เสนอว่าเรามาร่วมแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ตรงจุด ครบวงจร เพราะต้องการให้คนไทยมีความสุข จึงมาแก้จากฐานรากชุมชน โดยมองกลับว่า ฐานรากต้องแน่น แล้วมันจะเกื้อกูลระหว่างกัน ทั้งอุตสาหกรรม การผลิตและการส่งออก หากเกษตรไม่เข้มแข็งจะเอาอะไรไปส่งออก

ปราศรัยใหญ่ชัยนาท ๑๙๐๒๒๑ 0014

วันนี้ตนอยากคุยกับชาวนาเรื่องข้าวโดยเฉพาะ ว่ามีแนวทางอย่างไรให้ยั่งยืน โดยพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายเกษตรยั่งยืน คือ 3 ลด 3 เพิ่ม คือ ลดต้นทุน ลดภาระหนี้ และลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางการทำการเกษตร และเพิ่มแนวทางหารายได้ที่กระจายและยั่งยืน อย่างไรก็ตามความคืบหน้าล่าสุดสนช.ที่กำลังพิจารณาพ.ร.บ.ข้าว มีการเลื่อนออกไป เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวนาให้มากกว่านี้ แสดงว่าชาวนามีพลัง ที่เขาต้องฟัง

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นอดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำเรื่องข้าวมาโดยตลอด ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ ทำให้ข้าวที่ภาคอีสานดีมาแล้ว ตนไปอีสานมาโดนชาวบ้านกอดจนตัวเปื่อย เพราะราคาข้าวดีมาก แต่ภาคกลางยังไม่ดีเท่าที่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาชาวนาเหมือนตัวประกันทางการเมือง แต่พรรค พปชร. จะไม่ทำเช่นนั้น เรามีวิธีการช่วยพี่น้องชาวนาให้ยั่งยืน คือต้องทำให้ชาวนาเข้มแข็งด้วยตัวเอง ทำให้ราคาข้าวดีด้วยกลไกตลาด

นโยบายของพรรคจะเพิ่มค่าชดเชยค่าเกี่ยวข้าวจากเดิม 12 ไร่เป็น 20 ไร่ และเพิ่มจากไร่ละ 1,500 บาทเป็น 2,000 บาท เกี่ยวแล้วรับเงิน 40,000 บาทต่อครัวเรือน และยังให้ค่าเก็บเพิ่มอีก 30,000 บาท รวมเป็น 70,000 บาท รวมถึงให้ได้สิทธิประโยชน์ในการจำนำยุ้งฉาง 

ทางด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคจะต่อยอดจากนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ขายข้าวได้ราคา 1.8 หมื่นบาทต่อตันขึ้นไป ยืนยันว่านโยบายของพรรค พปชร. จะช่วยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้

ปราศรัยใหญ่ชัยนาท ๑๙๐๒๒๑ 0008

หลังพบปะพูดคุยกับตัวแทนชาวนาแล้ว นายอุตตม นายสนธิรัตน์ นายสมศักดิ์ นายอนุชา และนายมณเฑียร พร้อมคณะ ได้ขึ้นรถ อีแต๊ก อีแต๋น สัมผัสชีวิตชาวนาและ ชมบรรยากาศท้องทุ่ง ก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาเขาพลอง จังหวัดชัยนาท

นายอุตตม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นโยบายข้าว คือหัวใจสำคัญของนโยบายเกษตรยั่งยืน เพื่อให้ฐานเกษตรกรรมเข้มแข็ง พรรคเน้นให้ชาวนาสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง และรัฐบาลต้องมีนโยบายช่วยเหลือชาวนาขณะกำลังปรับตัว ตนเชื่อว่านโยบายเหล่านี้จะทำได้ทันที ทั้งค่าเก็บเกี่ยวจาก 1,500 บาทต่อไร่เป็น 2,000 บาทต่อไร่ เพราะมีการทำนโยบายนี้อยู่แล้ว ซึ่งนโยบายเหล่านี้เป็นการช่วยเหลือตรง ไม่ผ่านคนกลาง และยั่งยืน ไม่เป็นภาระงบประมาณและภาระของประเทศ พร้อมยืนยันว่าไม่ขายฝันให้กับประชาชน

สำหรับการให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มามีบทบาทในการหาเสียงนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขึ้นกับกรอบกฎหมายของ กกต. จะอนุญาตหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามพรรคเชื่อมั่นในนโยบายและตัวตนของ พลเอกประยุทธ์ อยู่แล้ว และหลังจากนี้จะมีการหารือกับ พลเอกประยุทธ์ เพิ่มเติมว่าจะทำอะไรได้บ้างในอนาคต

ปราศรัยใหญ่ชัยนาท ๑๙๐๒๒๑ 0022

“พรรคไม่มีพลังวิเศษ และทุกวันนี้อยู่ในสายตาประชาชน ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องประชาชนก็จะบอกเองว่าไม่ใช่ ยืนยันไม่มีแต้มต่อ” นายอุตตม กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่านโยบายที่พรรคทำ คือสิ่งที่ทำแล้ว และฟังชาวนา เพื่อเอามาเดินหน้าต่อ พรรคไม่ต้องการแทรกแซงตลาด แต่ใช้การพัฒนาระบบ เช่น ค่าเก็บ การพัฒนาคุณภาพข้าว  จึงเชื่อว่าทำได้จริง

ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เป็นประชาธิปไตย ตนมองว่าเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมือง เพราะพรรคทำตามกฎหมาย และตามรัฐธรรมนูญ เหมือนพรรคอื่นทุกประการ แต่เป็นเพียงความพยายามในการจะแยกเท่านั้น ไม่มีการใช้กลไกของรัฐในการแทรกแซง หรือกลั่นแกล้งพรรคอื่น เพราะพรรคเอง ก็ยังถูกฟ้องยุบพรรคเช่นกัน

ขณะที่นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าการหาเสียงที่ผ่านมามีการตอบรับจากประชาชนที่ดี และจะได้คะแนนเสียงจริง หลังจากที่พบปะประชาชน อีกทั้งนโยบายของพรรคที่ทำได้จริง และทำต่อเนื่องจากนโยบายที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน จะทำให้ถูกใจประชาชน

ส่วนการขุดข้อมูลมาโจมตีหน่วยงานราชการ นายสมศักดิ์ มองว่าเป็นการสร้างคะแนนนิยมจากการสร้างวาทกรรมทางการเมือง เพราะพรรคเหล่านี้ไม่สามารถสู้กับพรรคพลังประชารัฐได้ทางนโยบาย จึงต้องสร้างวาทกรรม หรือวิวาทะ มาถกเถียง โจมตี และเอาคะแนน เช่น ตรงนั้นตุง ตรงนี้ตุง หรือการตัดงบในรัฐสภา หากใครหลงกลไปโต้เถียงพวกเขาก็จะประสบความสำเร็จ

ปราศรัยใหญ่ชัยนาท ๑๙๐๒๒๑ 0002

ด้านนายอนุชา นาคาศัย  กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่เบื่อการเมืองแบบเก่าที่มีการโจมตีใส่กัน แต่ต้องการหาพรรคการเมืองที่ยกคุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นได้ มั่นใจว่าจังหวัดชัยนาทจะได้ ส.ส. ยกจังหวัด ไม่กังวลว่าใครจะกล่าวหาว่าพรรคได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)  หรือการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่การปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการสนับสนุนจากตนมากกว่า

 

Avatar photo