COLUMNISTS

ความสำเร็จของเด็ก…และผู้ใหญ่ มีอะไรเหมือนกัน

โค้ชผู้บริหาร -พาร์ทเนอร์ สลิงชอท กรุ๊ป
144

พอล ทัฟ นักเขียนลูกครึ่งอเมริกัน-แคนาเดียน เขียนไว้ในหนังสือ How Children Succeed รวบรวมผลงานที่ได้มีการศึกษาวิจัยกันไว้หลายสิบปีที่ผ่านมา

พอลเขียนสรุปไว้ว่าปัจจัยที่ช่วยให้เด็กๆ ประสบความสำเร็จและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ความฉลาดปราดเปรื่องเพียงอย่างเดียว

ความสำเร็จของเด็ก...และผู้ใหญ่ มีอะไรเหมือนกัน

แต่เด็ก ๆ ที่ประสบความสำเร็จมีคุณลักษณะที่เหมือนกันอีก 3 ด้านคือ

  • มีความมานะบากบั่น (Grit)
  • มีความใส่ใจ (Conscientiousness) 
  • มีความสามารถในการบริหารอารมณ์ของตนเองรวมทั้งมีความยับยั้งชั่งใจ (Self Discipline and Self Control)

คุณลักษณะเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์พื้นฐานที่บ่งบอกระบบคุณค่า แนวคิด และแนวโน้มพฤติกรรมของคนแต่ละคนหรือที่เราเรียกรวมๆ ว่า “Character”

ข้อสรุปของ พอล ทัฟ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่และก็ไม่น่าแปลกใจ แต่ทำให้ผมตั้งข้อสังเกตว่า คุณลักษณะ 3 อย่างนี้ไม่ได้มีความสำคัญแค่ต่อเด็กๆ เท่านั้น แต่ยิ่งสำคัญสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะเป็นผู้นำ

ผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จใช่จะอาศัยแค่ความปราดเปรื่องทางสติปัญญาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความมานะบากบั่น อดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ล้มแล้วลุก พร้อมทั้งเรียนรู้จากความผิดพลาดและไม่กลัวที่จะสู้ต่อ

นักธุรกิจ นักประดิษฐ์ และผู้นำการเปลี่ยนแปลงนักต่อนักต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการกว่าจะพาตัวเองสู่ความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับจากโลกได้

คนอื่นๆ ได้ยินชื่อเสียงและความสำเร็จของคนที่ประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จแล้ว แต่เรามักไม่ค่อยได้มองย้อนกลับไปว่าพวกเขาต้องฟันฝ่าอุปสรรคอะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงจุดนั้นได้

คุณลักษณะตัวที่สองคือความใส่ใจ เป็นคุณลักษณะที่นักวิจัยมองว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่มีผลมากที่สุดต่อความสำเร็จของเด็กๆ

ในบรรดาคุณลักษณะทั้งสาม คุณลักษณะด้านนี้แสดงถึงการที่คนๆ หนึ่งใส่ความพยายามอย่างเต็มเปี่ยมเพื่อให้สิ่งที่กำลังทำได้ผลออกมาดีที่สุด ถึงแม้จะไม่มีใครมาให้รางวัลแก่เขาก็ตาม

สำหรับคนที่มีคุณสมบัติด้านนี้รางวัลเกิดจากความสุขในตัวเขาเองเมื่อเขาทุ่มเทสร้างผลงานของเขาให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

คุณลักษณะตัวสุดท้ายคือความยับยั้งชั่งใจ เป็นการบริหารอารมณ์ ความอยาก และแรงกระตุ้นในด้านมืดของตัวเอง และเลือกทำในสิ่งที่ชอบที่ควร

สำหรับเด็กๆ คุณสมบัติข้อนี้อาจเป็นเพียงการอดใจรอไม่หยิบขนมใส่ปาก แต่สำหรับผู้ใหญ่และคนที่เป็นผู้นำ มันอาจหมายถึงการรักษาศรัทธา ชื่อเสียง และความไว้เนื้อเชื่อใจที่คนอื่น ๆ มีต่อเขา

อาณาจักรทรอยในวรรณกรรมกรีกล่มสลายก็เพราะเจ้าชายหนุ่มไปหลงรักสตรี ที่เขารู้ว่าจะนำหายนะมาสู่อาณาจักร ประมาณว่าทั้งที่รู้ก็ยังอดใจไม่ได้

ในทางกลับกัน ผู้นำที่บริหารอารมณ์และความอยากของตนเองได้ จะได้รับการยอมรับ และเป็นต้นแบบที่ดีแก่คนอื่นๆ ผู้อ่านน่าจะได้เห็นตัวอย่างเหล่านี้ในข่าวอยู่บ่อย ๆ

ในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเหมือนอาหารจานด่วน กินอร่อย สะใจ ไม่ต้องรอ เบื่อแล้วเปลี่ยน คนรุ่นเจนวาย (Millennials) และเจนซี (Gen Z) ที่กำลังเติบโตไปเป็นผู้นำในโลกอนาคตดูเหมือนจะไม่ค่อยแข็งแรง และไม่เห็นความสำคัญของคุณลักษณะเหล่านี้

คำถามสำคัญที่น่าครุ่นคิดคือ คุณลักษณะ 3 ด้านนี้จะยังสำคัญสำหรับผู้นำ ผู้บริหาร และคนทำงานในโลกอนาคตอยู่หรือไม่ สำหรับผมเองเชื่อว่าสำคัญ กระทั่งหากไม่น้อยกว่าเดิมก็อาจจะมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ

ทำไมผมเชื่อแบบนี้ ขออุบไว้เล่าคราวต่อไปครับ