นักเรียนหลายร้อยคน ต้องอพยพออกจากพื้นที่จังหวัดปาปัว ของอินโดนีเซีย ท่ามกลางรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ทหารอินโดนีเซียได้ใช้กำลังตอบโต้อย่างรุนแรง กรณีที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนสังหารหมู่คนงานพลเรือน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างกลุ่มเอ็นจีโอท้องถิ่นว่า การเสียชีวิตของคนงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล 16 คน ที่ค่ายพักคนงานในป่าลึกเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562 ทำให้การเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายรัฐบาล และกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษ เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น
เจ้าหน้าที่การศึกษาท้องถิ่น และองค์การอาสาสมัครเพื่อมนุษยธรรมสำหรับดูกา ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอท้องถิ่น บอกว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่วนบริหารท้องถิ่นเขตดูกา ต้องอพยพนักเรียนมากกว่า 400 คน มายังวาเมนา เมืองเอกของเขตจายาวิยาจา ที่อยู่ใกล้ๆ กับปาปัว
“นักเรียนบางคนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อทหารในเครื่องแบบเข้ามาที่โรงเรียน นักเรียนบางส่วนก็พยายามวิ่งหนีเพราะความกลัว” เอนเซ จีออง ผู้ประสานงานของกลุ่มเอ็นจีโอ ระบุ
ชาวบ้าน และเอ็นจีโอบางราย บอกด้วยว่า มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งพากันย้ายออกไปอยู่ตามเมืองใกล้เคียง หรือเข้าไปอยู่ในป่า ท่ามกลางการกล่าวหาว่า ทหารที่เข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิด วางเพลิง สังหารพลเรือน และปศุสัตว์
ทางด้านพันเอกมูฮัมหมัด ไอดิ โฆษกกองกำลังทหารปาปัว ปฏิเสธถึงข้อกล่าวหาเรื่องที่ทหารยิงพลเรือน ว่าเป็นเรื่องหลอกลวง และว่าถ้าหากมีเหยื่อที่อ้างว่าเป็นพลเรือนจริง พวกเขาก็ต้องไม่ใช่พลเรือนธรรมดาแน่นอน ต้องเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่เข้าโจมตีกองทัพ
ขณะที่ผู้บัญชาการท้องถิ่นบินซาร์ เซียนิปาร์ ออกมายืนยันถึงการอพยพนักเรียนข้างต้น แต่บอกว่ามีสาเหตุมาจากการขาดแคลนครูในพื้นที่ ไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของทหารแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เวโรนิกา โคแมน ทนายความ และนักเคลื่อนไหว ยืนยันว่า ปฏิบัติการทางทหารของอินโดนีเซีย ทำให้ประชาชนอย่างน้อย 1,000 ต้องไร้ที่อยู่อาศัย พร้อมอ้างว่ามีพยานหลักฐานเป็นภาพ และคลิปวีดิโอที่ทหารกำลังเผาปศุสัตว์ และบ้านเรือน ที่รวมถึง ผู้สูงวัยที่นอนป่วยอยู่ข้างในบ้านด้วย
ที่ผ่านมา กองกำลังรักษาความมั่นคงของอินโดนีเซีย ถูกกล่าวหามาโดยตลอดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวเมลานีเซียน ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองของปาปัว รวมถึง การใช้ศาลเตี้ยสังหารนักเคลื่อนไหว และจับกุมผู้ประท้วงอย่างสันติจำนวนมาก
