World News

เปิดอันดับ 10 มหาเศรษฐีมั่งคั่งสุดแห่งฮ่องกง

นิตยสารฟอร์บส์ ของสหรัฐ จัดอันดับมหาเศรษฐีฮ่องกง ที่มีความมั่งคั่งมากสุด ประจำปี 2562 โดยที่ “ลี กา ชิง” ยังคงอยู่ในอันดับ 1 ของการจัดอันดับ แม้จะมีความมั่งคั่งลดลงไปมากถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ก็ตาม

ฟอร์บส์ บอกด้วยว่า มหาเศรษฐีที่ติดอยู่ในการจัดอันดับครั้งล่าสุดนี้ หลายคนมีความมั่งคั่งลดลงจากปีที่แล้วอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่า ปี 2561 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ค่อนข้างยากลำบากของเหล่าคนมั่งคั่งในฮ่องกง

000 12M9P5
ลี กา ชิง

1. ลี กา ชิง
31,700 ล้านดอลลาร์

เจ้าของฉายา “ซูเปอร์แมน” นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของเอเชีย ติดอยู่ในอันดับบุคคลมั่งคั่งสุดของฮ่องกง มาตั้งแต่ที่ฟอร์บส์จัดอันดับมหาเศรษฐีฮ่องกงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2551

เขาเกษียณอายุจากการทำงานในฐานะประธานกรรมการบริหารซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ และซีเค แอสเซท โฮลดิ้งส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 แต่ยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสอยู่

2. ลี เชา คี
30,000 ล้านดอลลาร์

มหาเศรษฐีผู้เติบโตมาจากครอบครัวฐานะยากจน ที่สามารถกินปลา หรือเนื้อได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น

เขาร่วมมือกับกวอง ตั๊ก เซง ก่อตั้ง ซัน ฮุง ไก พรอพเพอร์ตีส์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมา และเริ่มต้นธุรกิจเฮนเดอร์สัน แลนด์ ดิเวลอปเมนท์ ในปี 2519 ซึ่งเป็นที่มาของความมั่งคั่งของเขาในปัจจุบัน ลี เซา คี ยังได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีใจบุญ จากการบริจาคเงินมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ สนับสนุนด้านการศึกษาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

3. ลี แมน ทัต
17,100 ล้านดอลลาร์

ประธานกรรมการบริหารแอลเคเค กรุ๊ป บริษัทแม่ของลีกุมกี่ ผู้ผลิตซอสหอยนางรมรายใหญ่สุดของโลก โดยปัจจุบันเขานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาบริษัท ปล่อยให้ลูกๆ ทั้ง 4 คน เข้าบริหารธุรกิจแทน

4. โจเซฟ เหลา
17,000 ดอลลาร์

เมื่อปี 2560 โจเซฟ เหลา ออกมาประกาศว่า ได้โอนทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ให้กับภรรยาใหม่ และลูกชายแล้ว โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง

ก่อนหน้านั้นในปี 2559 เขาซื้อพื้นที่โฆษณาเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ เพื่อประกาศการแยกทางกับอดีตแฟนสาว มารดาของบุตร 2 คนของเขา

5. กวอง ซิ่ว อิง
15,000 ล้านดอลลาร์

ภรรยาม่ายของกวอง ตั๊ก เซง ผู้ร่วมก่อตั้งซัน ฮุง ไก พรอพเพอร์ตีส์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2533 โดยเธออยู่ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหารระหว่างปี 2551-2554 หลังจากที่ วอลเตอร์ บุตรชายคนโตโดนปลดจากตำแหน่ง เพราะความขัดแย้งกับโธมัส และเรย์มอนด์ บุตรชายอีก 2 คนของเธอ ก่อนที่โธมัสจะโดนจับกุม และต้องโทาจำคุก 5 ปี เมื่อปี 2557 จากคดีสินบน ส่วนวอลเตอร์เสียชีวิตในปี 2561

กวอง ซิ่ว อิง ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของซัน ฮุง ไก ที่ 25.58% ซึ่งบุตรชายทั้ง 3 หรือลูกๆ ของพวกเขา จะได้รับมรดกจากเธอในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน

10 คนรวยสุดฮ่องกง 01

6. ลุย เช วู
14,800 ล้านดอลลาร์

ประธานบริษัทกาสิโนในมาเก๊า แกแล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป และ เค.วาห์ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้งส์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ต่างจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

เมื่อปี 2558 ลุย บริจาคเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์ให้กับมูลนิธิของตัวเอง และตั้งรางวัล ลุย เช วูขึ้นมา

7. ปีเตอร์ วู
10,800 ล้านดอลลาร์

ประธานกรรมการบริหารวีล็อค แอนด์ โค บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และวาร์ฟ โฮลดิ้งส์ บริษัทลูก ก่อนลงจากตำแหน่งในปี 2558 และเป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับบริษัท

วูเริ่มต้นการทำงานในปี 2515 กับเชส แมนฮัตตัน แบงก์ ในนิวยอร์ก สหรัฐ และได้พบรักกับเบสซี่ ภรรยาของเขา บุตรสาวของวาย.เค.เปา เจ้าพ่อธุรกิจขนส่งทางเรือ ก่อนที่เขาจะย้ายเข้ามาทำธุรกิจร่วมกับครอบครัวของภรรยาในฮ่องกง

นอกจากอสังหาริมทรัพย์แล้ว ธุรกิจของวีล็อค และวาร์ฟ ยังรวมถึง โทรคมนาคม ท่าเรือ และค้าปลีก

Joseph Tsai.0
โจเซฟ ไซ่

8.โจเซฟ ไซ่
9,500 ล้านดอลลาร์

รองประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป ทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นบุคคลรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของบริษัทรองจากแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหาร
เขายังถือหุ้น 49% ในสโมสรบาสเก็ตบอลบรูคลิน เน็ตส์ ที่อยู่ในลีกสมาคมบาสเก็ตบอลแหล่งชาติ (เอ็นบีเอ) ของสหรัฐด้วย

ไซ่ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และโทจากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งแม้จะเกิดในไต้หวัน แต่เขาถือหนังสือเดินทางแคนาดา

9. ไมเคิล คาดูรี
8,500 ล้านดอลลาร์

ประธานบริหารซีแอลพี โฮลดิ้งส์ บริษัทจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ที่ครอบครัวของเขาก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2444 และชาวฮ่องกงราว 80% ใช้บริการไฟฟ้าจากบริษัทของเขา

คาดูรี ยังเป็นประธานกรรมการบริหารฮ่องกง แอนด์ เซี่ยงไฮ้ โฮเต็ลส์ เชนโรงแรมหรู ที่มีแบรนด์โรงแรมในเครือรวมถึง เพนินซูลา

10. ฟรานซิส ฉ่อย
6,700 ล้านดอลลาร์

ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหารเออร์ลี่ ไลท์ อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่สุดของเล่น โดยเขาได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งของเล่น” ทั้งเขายังเข้าลงทุนในธุรกิจค้าปลีกนาฬิกา ด้วยการซื้อกิจเฮลวินเนอร์ เมื่อปี 2553

ฉ่อยยังเป็นรองประธานกรรมการบริหารรีกัล โฮเต็ลส์ อินเตอร์เนชันแนลด้วย ซึ่งความมั่งคั่งของเขามาจากพอร์ทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ของเขาทั้งในจีน ฮ่องกง และมาเก๊า

Avatar photo