Business

ธปท.เผยสินเชื่ออุปโภค-บริโภค ดันปล่อยกู้แบงก์ปี 61 โต 6%

นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ปี 2561 ว่าสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพสินเชื่อค่อนข้างทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์

สมชาย เลิศลาภวศิน ธปท
สมชาย เลิศลาภวศิน

ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายการกันสำรองที่ลดลง ทั้งนี้ระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ โดยมีเงินสำรอง เงินกองทุน และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในระยะต่อไปได้

สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 4.4% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 6.0% สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น โดยการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคในทุกพอร์ต สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีและสินเชื่อธุรกิจในหลายประเภทที่ส่วนใหญ่ มาจากการใช้สินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่และ SME ที่วงเงินค่อนข้างสูง แม้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนจะมีการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้น

1 5

สินเชื่อธุรกิจ ( 65.9% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัว  4.4% โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) ขยายตัว 4.1% จากสินเชื่อภาคบริการในธุรกิจที่พักแรม ส่วนหนึ่งมาจากลูกหนี้ บางรายที่ซื้อกิจการเครือโรงแรมในต่างประเทศ ประกอบกับการขยายตัวของสินเชื่อในภาคพาณิชย์ และภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก สำหรับสินเชื่อธุรกิจ SME (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) ขยายตัว 4.5% โดยยังขยายตัวดีในธุรกิจพลังงาน อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ส่วนใหญ่จาก SME ที่มีวงเงินสินเชื่อสูง

2 4

สินเชื่ออุปโภคบริโภค (34.1% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนในทุกพอร์ตมาอยู่ที่ 9.4% โดยหลักจาก

1. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ก่อนมาตรการ Loan To Value (LTV) จะบังคับใช้ในเดือนเมษายน 2562

2. สินเชื่อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น หลังสิ้นสุดระยะเวลาถือครอง 5 ปี ของมาตรการรถยนต์คันแรก

3. สินเชื่อส่วนบุคคลทุกประเภท อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีบ้านเป็นหลักประกัน สินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อสวัสดิการ

5 1

คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์  สิ้นปี 2561 สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ต่อสินเชื่อรวม อยู่ที่ 2.93% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2.91% โดยมียอดคงค้าง NPL อยู่ที่ 443,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 14,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ ชะลอลงต่อเนื่องมาตั้งแต่สิ้นปี 2559 สะท้อนภาพรวมคุณภาพสินเชื่อที่เริ่มทรงตัว

แม้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้และการตัดหนี้สูญ สำหรับสัดส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan: SM) ต่อสินเชื่อรวมปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.42% จาก 2.55% ในปีก่อน โดยมียอดคงค้างทั้งสิ้น 366,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองอยู่ในระดับสูงที่ 668,000 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 67,000 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 193.3% ในปี 2561 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 207,000 ล้านบาท ขยายตัว 10.8% จากปีก่อน

จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยตามสินเชื่อที่ขยายตัวและการลดลงของค่าใช้จ่ายการกันสำรองแม้ว่ารายได้ ค่าธรรมเนียมชะลอตัวลงเนื่องจากการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัลซึ่งมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมเร่งตัวขึ้น ประกอบกับรายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจประกันและกองทุนรวมลดลง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย(Return on Asset : ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่1.11% จาก1.04% ในปีก่อน

ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin: NIM) ทรงตัวที่ 2.73% ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2.569 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 117,000 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการจัดสรรกำไรเข้าเป็นเงินกองทุนเป็นสำคัญ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1: CET1ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.3 และ 15.8 %ตามลำดับ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight