เลขาภท. การันตีนโยบายกัญชาพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ สร้างรายได้เพิ่มกว่า 400,000 บาทต่อปี ยกแคลิฟอร์เนียโมเดล ไร้ปัญหาอาชญากรรม และอุบัติเหตุจากผู้ใช้สายเขียว แถมคนดื่มเหล้าลด30%
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าววันนี้ (17 ก.พ.) ถึงนโยบายพรรคภูมิใจไทย ในการใช้หาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 โดยเฉพาะนโยบายส่งเสริมการปลูกกัญชา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พืชแก้จน พืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ กัญชาเสรี” ว่า พรรคภูมิใจไทย นำเสนอนโยบายกัญชา เพราะมองเห็นว่าสามารถสร้างเศรษฐกิจให้ประเทศได้อย่างมาก เป็นการพลิกชีวิตให้คนไทยทั้งหมด
สิ่งที่พรรคทำ ได้ทำการศึกษาและวิจัยจริงๆ ไม่ใช่แค่คิดเท่านั้น จึงกล้าที่จะร่างพระราชบัญญัติ ที่นำเสนอข้อกฎหมายเพื่อให้เรื่องเหล่านี้นำไปสู่การปฏิบัติได้จริงขาดเพียงแค่พี่น้องประชาชนเห็นด้วยกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ถ้าเห็นด้วยก็เลือกผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยเพื่อที่จะสามารถทำเรื่องนี้ได้ทันที
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นโยบายพรรคภูมิใจไทยที่เน้นเป็นเรื่องสำคัญคือ ต้องการสนับสนุนให้กัญชาของไทย เป็นกัญชาเสรี แต่คำว่าเสรี ต้องมีกรอบกติกา
“เราใช้ต้นแบบจากการศึกษาวิจัยในประเทศที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ โดยอเมริกาเองเป็นประเทศที่ต่อต้านยาเสพติดลำดับต้นๆ ของโลก แต่ขณะนี้มี 11 รัฐ ที่กัญชาถูกกฎหมาย โดยแคลิฟอร์เนียเป็นเบอร์ 1 ของเรื่องกัญชาที่ถูกกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 อนุญาตให้ร้านค้าปลีกสามารถจำหน่ายกัญชาให้กับประชาชนที่มีอายุ 21 ปี ขึ้นไป เพื่อเอาไปใช้ที่บ้านได้”
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการที่แคลิฟอร์เนีย คือ
1.ควบคุมให้สามารถใช้กัญชาไปทำยารักษาโรค
2.ทำเชิงพาณิชย์ ใครต้องการปลูกเชิงพาณิชย์ไว้ขายก็สามารถทำได้
3.ให้ประชาชนทุกครอบครัวสามารถปลูกกัญชาได้อย่างเสรี แต่มีกรอบว่าปลูกได้บ้านละ 6 ต้น และคิดค่าปลูกบ้านละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น และให้ผู้ที่ปลูกสามารถใช้กัญชาในการสันทนาการในบ้าน สามารถใช้ปรุงอาหารผสมอาหาร
แม้แต่บริษัทน้ำอัดลมที่อยู่ในอเมริกามีการผสมน้ำอัดลมกับกัญชาโดยมีการกำหนดในปริมาณที่เหมาะสม
“จากข้อมูลพบว่าเขามีการใช้กัญชาเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงถึง 30% และไม่เคยมีสถิติการเกิดอาชญากรรม หรือเกิดอุบัติเหตุจากผู้ใช้กัญชา และยังไม่พบว่ามีผู้ใช้กัญชาแล้วถึงกับเสียชีวิต จึงทำให้เห็นว่าวันนี้กัญชาถือเป็นพืชที่มีประโยชน์อย่างมาก”
เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อว่าอย่างไรก็ดีสหประชาชาติ องค์การอนามัยโลกกำลังจะประกาศปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด แต่ที่ไปเร็วกว่านั่นคืออิสราเอล ที่ออกกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กำหนดให้ประเทศสามารถส่งออกกัญชาได้
สำหรับประเทศไทย เป็นประเทศที่มีสายพันธุ์กัญชามากมาย แล้วรออะไรอยู่ รอเพื่อจะซื้อของแพงหรือ
“ผมดีใจที่รัฐบาลออกกฎมายที่ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดและให้ใช้ในทางการแพทย์และปลูกในเชิงพาณิชย์ได้ แต่ที่รัฐบาลควรทำคือ ต้องให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาได้อย่างเสรี ต้องปลูกได้บ้านละ 6 ต้นโดยจะมีรายได้ปีละ4.2แสนบาท ที่เป็นไปตามต้นแบบแคลิฟอร์เนียที่ทำมาแล้ว”
ดังนั้นการปลูกเองเพื่อใช้ในครัวเรือน หากเหลือใช้ก็สามารถขายได้ โดยเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะเป็นผู้รับซื้อ รัฐจะต้องมีหน้าที่เข้ามาดูแลเรื่องเหล่านี้ พร้อมทั้งจัดโซนนิ่ง เอกชนหรือบริษัทที่จะเข้ามาซื้อต้องซื้อผ่านรัฐ ไม่ใช่ซื้อจากประชาชนโดยตรง หากวันนี้ รัฐอุดหนุนให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมกันคิดพัฒนาทำวิจัยกัญชารับรองได้ว่าไม่มีอะไรที่ประเทศไทยจะเสียหาย พรรคภูมิใจไทยยังมองว่ากัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่มีอนาคตแน่นอน และแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชนได้เช่นกัน