Economics

‘กัลฟ์-พีทีทีแทงค์’ จับมือยื่นซองประมูลท่าเรือฯ มาบตาพุด ระยะ 3 ช่วง 1

2 ทุนยักษ์  “กัลฟ์-พีทีทีแทงค์” จับมือยื่นซองประมูลท่าเรือฯ มาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 เตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด คาดรู้ผลและลงนามสัญญาร่วมทุนพฤษภาคมนี้  

w644 1 1
สมจิณณ์ พิลึก

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า หลังจากกนอ.เปิดให้มีการยื่นซองประมูลโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่1) ทั้งที่เป็นข้อเสนอรายละเอียดทางเทคนิค และเอกสารรายละเอียดด้านราคา ต่อคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน หรือ Public Private Partnership (PPP) Net Cost

โดยกำหนดปิดรับซองในวันนี้ (15 ก.พ. 62)  สรุปผลมีกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ (บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด) มายื่นข้อเสนอต่อ กนอ.

สำหรับการตรวจสอบเอกสารของบริษัทดังกล่าว คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนฯ จะเร่งดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และ กระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. 2560 ของสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถประกาศผลรายชื่อผู้ที่ชนะการคัดเลือกเอกชน และสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับภาคเอกชนเข้าพัฒนาในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2562 โดยมีแผนการพัฒนาโครงการฯดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ช่วง รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 55,400 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • ช่วงที่ 1 การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
    ภาคเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการในครั้งนี้ จะสามารถเข้าพัฒนาได้ ภายหลังจากลงนามในสัญญาร่วมลงทุน (PPP)  ซึ่งการร่วมลงทุนครั้งนี้ ภาคเอกชนจะได้สิทธิในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือประมาณ 200 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุน ประมาณ 47,900 ล้านบาท
    แบ่งเป็น กนอ.ร่วมลงทุนเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิไม่เกิน 12,900 ล้านบาท และ ภาคเอกชน 35,000 ล้านบาท ได้แก่ การขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่ การขุดลอกร่องนํ้า และแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือก๊าซ รองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี
    คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568
  • ช่วงที่ 2 การลงทุนพัฒนาก่อสร้างในส่วนของท่าเรือ (Superstructure)
    กนอ.จะออกทีโออาร์ เพื่อประกาศเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมพัฒนา โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาท่าเทียบเรือสินค้าเหลว รองรับปริมาณ ขนถ่ายสินค้าเหลวได้ 4 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 ใช้เงินลงทุนประมาณ 4,300 ล้านบาท และงานก่อสร้างพื้นที่หลังท่า จำนวน 150 ไร่ เงินลงทุน 3,200 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
mit2
ภาพ: ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด

เนื่องจากปัจจุบันการใช้งานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งเป็นท่าเรือสาธารณะในระยะที่ 1-2 เต็มศักยภาพรองรับแล้ว จึงจำเป็นต้องขยายเป็นระยะที่ 3 เพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และสินค้าเหลวสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวได้เพิ่มอีก 15 ล้านตันต่อปีในอีก 30 ปีข้างหน้า

“โครงการนี้ ถือเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเร่งด่วนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือ EEC Project List ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ  บรรยากาศของการมายื่นข้อเสนอรายละเอียดทางเทคนิค และเอกสารรายละเอียดด้านราคาต่อคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยเป็นไปตามขั้นตอน โดยที่มีเอกชนเข้ายื่นข้อเสนอในวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จของโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการก่อสร้าง จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและการบริหารจัดการโครงการในอนาคต อย่างไรก็ตามในขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการฯจะมีการตรวจสอบเอกสารที่ยื่นมาทั้งหมดต่อไป” นางสาวสมจิณณ์กล่าว

Avatar photo