หลังจากหมดสัญญาใบอนุญาต เป็นตัวแทนธุรกิจ ERA (ธุรกิจตัวแทนขายอสังหาฯจากสหรัฐอเมริกา) ในไทยกับบริษัทเดิม บจ. อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) ที่ดำเนินธุรกิจตัวแทนขายอสังหาฯในไทยมากว่า 25 ปี ล่าสุดผู้บริหารคนเดิม คือ นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ก็ได้ก่อตั้งบริษัทตัวแทนขาย ERA ในไทยเป็นการเริ่มต้นสัญญาใหม่ ในอี 25 ปีนับจากนี้ไป
การเริ่มต้น ERA ในไทยรอบนี้ เป็นการร่วมทุนโดยการสนับสนุนของ ERA Asia Pacific ด้วยการเปิดตัวบริษัทใหม่ “ERA Holding Thailand” บริษัท อีอาร์เอ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ APAC Realty ประเทศสิงคโปร์ เพื่อขยายธุรกิจแฟรนไชส์ อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการโดยเริ่มต้นจากปี 2562 ต่อเนื่องไปอีก 25 ปีตามสัญญาที่ทำไว้กับ ERA บริษัทแม่ที่สรัฐอเมริกา
นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท อีอาร์เอ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ERA จะเดินหน้าธุรกิจตัวแทนขายอสังหาฯในไทยอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบธุรกิจกิจแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ ด้วยระบบใหม่ภายใต้โปรแกรม “ERA Mega-Franchise System” เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทสมาชิก และมีการวางแผนเพื่อยกระดับไปสู่การดำเนินการในรูปแบบของ “Mega-Broker Franchise System” อย่างเต็มตัว
เนื่องจากในปัจจุบัน ธุรกิจนักขายและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้รับความสนใจและมีกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้มีการแข่งขันสูงกว่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ให้บริการสำหรับเครือข่ายต่างๆ ต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และสามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในธุรกิจแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์
“ERA” เป็นเครือข่ายแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 1993 (2536) ด้วยบริษัทสมาชิกแฟรนไชส์ 30 สาขาและตัวแทนขายกว่า 2,000 คน ทั่วประเทศ ปัจจุบันก้าวสู่ปีที่ 26 และ ERAก็ยังคงพัฒนารูปแบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งได้รับความไว้วางใจจาก APAC Realty สิงคโปร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้ถือหุ้นในปัจจุบันแล้ว ยังเป็นผู้สนับสนุนในด้านไอที และการฝึกอบรมต่างๆ ในทุกระดับ
ทั้งนี้ ปัญหาและอุปสรรคในปัจจุบัน ของผู้ที่อยู่ในธุรกิจตัวแทนขาย ก็คือการสรรหาและฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ รวมถึงเรื่องของความมั่นคงในอาชีพของพนักงานในส่วนต่างๆ อีกทั้ง ยังต้องพัฒนาองค์กร เพื่อให้ทันยุคทันสมัย และสามารถแข่งขันในตลาด ทั้งในและต่างประเทศได้
ดังนั้นเพื่อให้เป็นทางออกที่ดีที่สุดของผู้ประกอบการ คือ การนำระบบแฟรนไชส์ ที่สามารถครอบคลุมเรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้ และในปีนี้ ERA ก็ได้พัฒนารูปแบบแฟรนไชส์ใหม่ขึ้นภายใต้ชื่อ “Mega Broker Franchise System” เป็นระบบแฟรนไชส์ อสังหาริมทรัพย์และฝึกอบรม เพื่อให้บริษัทสมาชิกมีความพร้อมในตัวเองอย่างแท้จริง และพร้อมที่จะขยายงานเพื่อครอบคลุมพื้นที่ทางการตลาดให้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้ง ยังสามารถแข่งขันได้ในทุกรูปแบบ
ประกอบกับโปรแกรมการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และระบบ CRM ที่ได้รับความยอมรับอย่างยิ่งในประเทศสิงคโปร์ ระบบใหม่ของ ERA นี้ มีรูปแบบการวัดผลที่ชัดเจน และเข้าใจง่ายในการดำเนินการ ไม่เพิ่มภาระให้แก่สมาชิก เพราะทุกระบบขึ้นอยู่กับความสมัครใจเป็นหลัก และที่สำคัญที่สุดก็คือ โปรแกรม “You + ERA… A Real Match” หรือ โปรแกรม “1,000..100…10” ซึ่งประกอบด้วย
- ERA รับสมาชิกใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน 1,000 คน และจะสอนให้จนทำงานเป็น
- ERA รับสมาชิกใหม่ที่มีประสบการณ์และต้องการเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่าในปีนี้ จำนวน 100 คน
- ERA ยินดีรับสมาชิกในรูปแบบนิติบุคคล 10 บริษัท เพื่อช่วยวางแผนงาน ขยายงานและเพิ่มรายได้
ทั้งนี้โปรแกรมต่างๆ จะเริ่มรุ่นแรกในเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้ บริษัทขอย้ำว่าทุกรายการขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสมัครใจของทุกท่าน โดยค่าสมาชิก เริ่มต้นที่ 2,000 บาท เป็นต้นไป
เทรนด์อสังหาฯแยกตัวแทนขาย-ผู้พัฒนา
นายแจ๊ค ชัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ERA Asia Pacifie และ ซีอีโอ APAC Realty ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย กำลังเติบโต และต้องการบุคคลากรด้านการขายมารองรับ เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาฯที่สิงคโปร์ ซึ่งตลาดเติบโตมาก และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ในสิงคโปร์มีพื้นที่น้อย อสังหาฯที่มีอายุยาวนานกว่า 30 ปี ก็มีการรวมตัวกันขายอาคารเก่า เพื่อนำมาพัฒนาใหม่ หรือที่เรียกว่า M Block แต่ในไทยมีแต่การพัฒนาโครงการใหม่ ไม่ว่าจะเป็น M Block หรือโครงการลงทุนใหม่ ก็ล้วนต้องการทีมขายเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันอสังหาฯในไทย บริษัทผู้พัฒนาเป็นผู้ขายเองในส่วนใหญ่ แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะเป็นไปในรูปแบบเดียวกับ การพัฒนาอสังหาฯในสิงคโปร์ คือ ผู้พัฒนาจะเป็นเพียงผู้สร้าง แต่งานขายจะเป็นบริษัทบริหารงานขายรับหน้าที่แทน เชื่อว่าในไทยก็จะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันนี้ ในอนาคตอันใกล้
เอเจนซี่จะมีบทบาทในฐานะตัวแทนขายมากขึ้นในอนาคต บริษัทอสังหาฯจะเป็นเพียงผู้พัฒนาเท่านั้น
