“ปรีชาพล” ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้า พร้อมยอมรับมติ “กกต.” ไม่ประกาศชื่อแคนดิเดตนายกฯ ประกาศเดินหน้าสู้ต่อในสนามเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ทำการพรรคว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้มีความเคลื่อนไหวภายในพรรค โดยสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ทยอยเดินทางมาเหมือนเช่นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ไปเฝ้าติดตาม ซึ่งเมื่อถึงเวลา 13.15 น. นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค ทษช. ได้ออกมายืนรอให้การต้อนรับ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ โดยร.ท.ปรีชาพลเดินทางมาพร้อมกับน.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และนายฤภพ ชินวัตร กรรมการบริหารพรรค ซึ่งในวันนี้เป็นการปรากฎตัวครั้งแรกของร.ท.ปรีชาพลหลังจากยื่นบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า พวกเรากรรมการบริหารพรรค ทษช.ขอน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ และที่ กกต.มีมติไม่ประกาศแคนดิเดตนายกฯของ ทษช. เมื่อกกต.มีมติมาแล้วเราก็ยอมรับมติกกต. จะไม่โต้แย้งใดๆ เพราะเราได้แถลงน้อมรับพระราชโองการแล้ว หลังจากนี้ไปจะต้องเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง หาเสียง โดยวันนี้ได้เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อวางแผนและกำหนดท่าทีในการหาเสียง
“เราเองในฐานะพรรคการเมืองมีภาระหน้าที่สำคัญต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสมาชิกและผู้สมัครของพรรค การทำงานวันนี้ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ เราต้องเดินหน้าเพื่อไปสื่อสารนโยบายและขออาสารับใช้ประชาชนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ต้องขอเรียนว่าพวกเราดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ความตั้งใจดี อยากเห็นบ้านเมืองไปในทิศทางดี มีอนาคตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน” ร.ท.ปรีชาพลกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีกกต.พิจารณายุบพรรคทษช.กังวลหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะเราได้ทำตามระเบียบและขั้นตอน ข้อบังคับของกฎหมาย ไม่มีอะไร ตรงไปตรงมา ส่วนผู้มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างกกต. ถ้าเห็นว่ามีอะไรน่าสงสัยก็ต้องดำเนินการ ซึ่งตนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ส่วนการลาออกของกรรมการบริหารลาออก เท่าที่ทราบก็เป็นปัญหาส่วนตัว เรื่องครอบครัว ไม่เป็นไรเราเป็นองค์กร ยังมีสมาชิก กำลังใจและความพร้อมเต็มที่ในการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
ส่วนที่มีเสียงเรียกร้องให้กรรมการบริหารลาออก แต่ไม่ลาออกเพราะเหตุใด ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เราตั้งใจดี เราปรารถนาดี เชื่อว่าคนไทยทุกคนรักประเทศ และเราคิดว่านี่เป็นทางออกของประเทศ แต่เมื่อมีพระราโองการลงมาแล้วเราทุกคนต้องน้อมรับ เพราะสิ่งที่อยู่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมของเราทุกคนคือพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันพระมหากษัตริย์
ภาพจากเฟซบุ๊คไทยรักษาชาติ
