นักวิเคราะห์ชี้ “แอปเปิล อิงค์” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ ขาดกลยุทธ์การทำตลาดที่ดี ที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดจีน หลังไตรมาสสุดท้ายปี 2561 ยอดขายสมาร์ทโฟนของบริษัทในตลาดนี้ ร่วงไปร่วม 20%
นิโคล เป็ง ผู้อำนวยการอาวุโส ของแคนาลิส ระบุว่า นอกจากจะยังไม่มีกลุยทธ์ทำการตลาดที่ดีแล้ว ยังดูเหมือนว่า บริษัทจะเคลื่อนไหวจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเชื่องช้าต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการบริโภคของคนในท้องถิ่น
“เมื่อสมาร์ทโฟนกลายมาเป็นโภคภัณฑ์ สำหรับลูกค้าจีน บริษัทข้ามชาติรายต่างๆ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ทำการตลาด และการขายโดยรวม แต่ดูเหมือนว่า แอปเปิลจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนแผนทำการตลาดในจีนแต่อย่างใด”
การแสดงความเห็นครั้งนี้มีขึ้น หลังไอดีซี บริษัทด้านการวิจัย เผยรายงานฉบับล่าสุด ที่ระบุว่า ในไตรมาส 4 ปี 2561 ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนของแอปเปิล ดิ่งลงมาราว 20% เน้นให้เห็นสถานะของบริษัทในตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่รายใหญ่สุดของโลก ที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับคู่แข่งในท้องถิ่นอย่างหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โค
ไอดีซี ระบุว่า ตลาดมือถือจีนหดตัวราว 9.7% ในไตรมาสที่แล้ว แต่ยอดขายสินค้าแอปเปิลร่วงหนักกว่านั้นร่วม 2 เท่า โดยมีสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว อุปกรณ์มีอายุการใช้งานนาน และราคาไอโฟนที่ค่อนข้างสูง
บริษัทวิจัยรายนี้ บอกด้วยว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว แอปเปิลทำยอดขายในตลาดจีนได้เป็นอันดับ 4 รองจากออปโป และวีโว โดยที่หัวเว่ยยังสามารถรักษาแชมป์ เป็นค่ายมือถือที่มียอดขายสูงสุดในจีนเอาไว้ได้
ไอดีซี ยังชี้ว่า อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในขณะนี้ จะหันไปแข่งขันในเรื่องนวัตกรรม อาทิ หน้าจอพัยได้ กล้องถ่ายรูป 3 มิติ และมือถือที่พร้อมรองรับ 5จี เพื่อฟื้นฟูตลาด
หวัง ซี่ นักวิเคราะห์อาวุโสไอดีซี เขียนไว้ในรายงานว่า ตลาดสมาร์ทโฟนจีนในปี 2562 มีแนวโน้มที่ไม่ค่อยดีนัก โดยมือถือที่รองรับ 5จี ยังมีสัดส่วนข้างน้อยในตลาดโดยรวม ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะกลายมาเป็นมือถือกระแสหลัก
