Economics

ปตท.สผ.ลุยธุรกิจแอลเอ็นจี ‘โมซัมบิก’

ในบรรดากลุ่มปตท. นั้น บริษัทปตท.สำรวจ และผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.สผ.” ถือว่ามีอนาคตสดใส หลังจากประมูลแหล่งบงกช และเอราวัณสำเร็จ เฉพาะปีนี้เม็ดเงินลงทุนทั้งกลุ่มปตท. 450,000 ล้านบาท เป็นของปตท.สผ. 60,000 ล้านบาท

พงศธร ทวีสิน Final
พงศธร ทวีสิน

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.สผ.  กล่าวถึงแผนงานสำคัญว่า เน้นการลงทุนในประเทศ จากการชนะประมูลแหล่งเอราวัณ และบงกช ซึ่งคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) กับกระทรวงพลังงานได้ในเดือนนี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ บริษัทยังจะลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ทั้งเมียนมา มาเลเซีย อินโดนิเซีย  โดยโครงการหลักเป็นโครงการ Gas to Power ในเมียนมา ซึ่งน่าจะได้ข่าวดีภายใน 2-3 เดือนนี้ โดยจะดึงบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่  จํากัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี  เข้าไปทำธุรกิจไฟฟ้าร่วมกัน

ส่วนการลงทุนในตะวันออกกลางยังรักษาระดับไว้ ทั้งที่โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เพราะต้นทุนต่ำ ตามยุทธศาสตร์ของ ปตท.สผ.

โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ก็เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่สำคัญที่ดำเนินตามยุทธศาสตร์นี้ และจะเห็นความคืบหน้าอย่างชัดเจนในปีนี้ 

ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างเตรียมพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ และก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ซึ่งในระยะแรกประกอบด้วยโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 2 สายการผลิต (train) กำลังการผลิตรวม 12.88 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับการพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม (Golfinho-Atum) ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งหนึ่งในโครงการดังกล่าว

ล่าสุดบริษัท Mozambique LNGCompany Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การร่วมทุนของ ปตท.สผ. และกลุ่มบริษัทร่วมทุนในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจี (Sales and Purchase Agreement: SPA) กับบริษัท เชลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง มิดเดิล อีสต์ (Shell International Trading Middle East Ltd.) หรือ เชลล์ โดยจะรับซื้อแอลเอ็นจีในปริมาณ 2 ล้านตันต่อปี เป็นระยะเวลา 13 ปี

และก่อนหน้านี้บริษัท Mozambique LNGCompany Pte. Ltd. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีกับบริษัท โตเกียว ก๊าซ จำกัด (Tokyo Gas Co., Ltd.) และบริษัท เซ็นทริก้า แอลเอ็นจี จำกัด (Centrica LNG Company Ltd.) จำนวน 2.6 ล้านตันต่อปี นับจากวันที่เริ่มการผลิตไปจนถึงในช่วงปี 2583

นอกจากนั้น ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจี กับบริษัท ซีนุค ก๊าซ แอนด์ พาวเวอร์ สิงคโปร์  เทรดดิ้ง แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (CNOOC Gas and Power Singapore Trading & Marketing Pte. Ltd.) อีกจำนวน 1.5 ล้านตันต่อปี เป็นระยะเวลา 13 ปี ส่งผลให้ขณะนี้โครงการฯ มียอดขายตามสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีมากกว่า 7.5 ล้านตันต่อปี และคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาซื้อขายเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้นี้

“เป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ ที่จะผลักดันให้มีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย หรือ FID ภายในครึ่งแรกของปี 2562 พร้อมกันนี้ ยังช่วยเปิดตลาดแอลเอ็นจีของโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานสะอาดในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก” นายพงศธร ระบุ

ทั้งนี้โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของประเทศโมซัมบิก ประกอบด้วยแหล่งพรอสเพอริดาเด (Prosperidade)แหล่งโกลฟินโญ-อาตุม (Golfinho-Atum)แหล่งออร์กา (Orca),แหล่งทูบาเรา (Tubarao) และแหล่งทูบาเรา-ทีเกร (Tubarao-Tigre) มีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติประมาณ 75 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งผลิตแอลเอ็นจี ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

แหล่งนี้จะเป็นอีกแหล่งที่จะทำให้เป้าหมายของปตท.สผ.บรรลุ ให้ปริมาณการขายเติบโตปีละ 5 % ในช่วง 10 ปี จนถึงปี 2573 จากปริมาณการขายอยู่ที่ 3.18 แสนบาร์เรลต่อวันในปี 2561  รวมถึงเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมจาก 670 ล้านบาร์เรล เป็น 900 ล้านบาร์เรล

Avatar photo