จากเหตุการณ์เหมืองถล่มทางภาคใต้ของโปแลนด์ใกล้กับชายแดนสาธารณรัฐเช็กหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.4 แมกนิจูด ทำให้คนงานเหมืองเสียชีวิต 2 คน สูญหายอีก 3 คนภายในอุโมงค์ใต้ดินนั้น ล่าสุด เหมืองดังกล่าวยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และผู้นำโปแลนด์ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจเหยื่อและครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว
โดยรายงานจากสื่อต่างประเทศ ระบุว่าในขณะเกิดเหตุระเบิด มีคนงานกำลังทำงานอยู่ในเหมืองราว 250 คน ส่วนคนงาน 3 คนที่สูญหายไปนั้นอยู่ในกลุ่มคนงาน 11 คน ที่กำลังขุดเจาะอุโมงค์แห่งใหม่ภายในเหมืองซึ่งลึกลงไปใต้ดินถึง 900 เมตร
โดยความคืบหน้าของเหตุดังกล่าว นายกรัฐมนตรี Mateusz Morawiecki และประธานาธิบดี Andrzej Duda ได้เดินทางไปเยี่ยมคนงานที่รอดชีวิต รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของคนงานเหมืองที่เสียชีวิตแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ และทำให้เหมืองอาจไม่สามารถเปิดทำการได้ในวันจันทร์ด้วย
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินเป็นอุตสาหกรรมหลักของโปแลนด์ และถ่านหินยังเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของประเทศในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยในปี 2560 มีตัวเลขการขุดเจาะถ่านหินมากกว่า 58.7 ล้านตันขึ้นมาใช้งาน
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพแวดล้อมในเหมืองถ่านหินที่เป็นอันตราย ส่งผลให้มีตัวเลขการเสียชีวิตของคนงานในเหมืองจากการระเบิดของก๊าซมีเทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแล้วทั้งสิ้น 6 คน อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ด้านการทำเหมืองของรัฐ ส่วนในปี 2559 มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 8 คน และปี 2558 เสียชีวิต 5 คน
ปัจจุบัน รายงานจากไมนิจิ สื่อของญี่ปุ่นเผยว่า โปแลนด์มีการหันไปหาพลังงานทดแทนที่เป็นแหล่งพลังงานสะอาดมากขึ้นด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ France24
