Economics

‘กกร.’ ห่วงเงินบาทแข็ง!! กระทบส่งออกไทยปีนี้

“กกร.” ห่วงเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องกระทบส่งออกปีนี้ ชี้ตั้งแต่ 1 ก.พ.แข็งค่าสุดอันดับที่ 2 ในภูมิภาค เล็งขอถก “ธปท.” หาทางออก

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุมมีความเป็นห่วงเรื่องค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งหากเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้ โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.4% แข็งค่ามากสุดเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาค เป็นรองเพียงค่าเงินรูเปียะห์อินโดนีเซียที่แข็งค่าขึ้น 3.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการแข็งค่าของเงินบาท เป็นผลจากปัจจัยเงินดอลลาร์ อ่อนค่าเพราะขาดแรงหนุน หลังธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย

สุพันธุ์ มงคลสุธี231625

“ภาคเอกชนต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีนโยบายเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพื่อให้การส่งออกของไทยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก และหากสถานการณ์ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่า 31 บาท/ดอลลาร์ ทางภาคเอกชนจะขอเข้าหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันในการหาทางออกแก้ไขสถานการณ์”

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.1% โดยเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ที่ถูกกระทบจากเรื่องส่งออก และการลงทุนภาครัฐ

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนยังรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ดีและคาดว่าจะเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจในปี 62 ให้ขยายตัวได้ในกรอบประมาณการของ กกร. ที่ 4 – 4.3% ส่วนประเด็นเรื่องสงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเติบโตชะลอลง คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกของไทยในปีนี้ อาจขยายตัวชะลอลงมาอยู่ในกรอบประมาณการที่ 5 – 7%  จากปี 61 ขยายตัว 6.7%

ส่งออก3

อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจอื่นที่สำคัญคือ การท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปีนี้เติบโตใกล้เคียงปี 2561 ที่ 7.5% ตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวในตลาดสำคัญ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่น่าจะทยอยเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนมากขึ้น อันเป็นผลจากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งในระยะข้างหน้า ที่ประชุม กกร. จะติดตามสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ผลการเลือกตั้งทั่วไปและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ความคืบหน้าเรื่องข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ – จีน และความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit ตลอดจนทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เพื่อประเมินผลต่อเศรษฐกิจและธุรกิจไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป

Avatar photo